พิกเซลของ Facebook

เมื่อคุณตั้งค่าช่องทาง Facebook และ Instagram โดย Meta คุณสามารถเพิ่มพิกเซลเพื่อติดตามข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ หากต้องการใช้พิกเซลของ Facebook คุณจะต้องตั้งค่าระดับการแชร์ข้อมูลลูกค้าคุณต้องตัดสินใจว่าต้องการติดตามข้อมูลโดยใช้พิกเซลมากน้อยเพียงใด การตั้งค่าการแชร์ข้อมูลแบบมาตรฐานจะส่งเฉพาะพฤติกรรมของลูกค้าเท่านั้น ส่วนการตั้งค่าแบบพิเศษและสูงสุดจะส่งข้อมูลลูกค้าเพิ่มเติมซึ่งรวมถึงชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง และที่อยู่อีเมล

คุณสามารถสร้างพิกเซลของ Facebook ได้โดยใช้ตัวจัดการโฆษณาของ Facebook หรือในช่องทาง Facebook และ Instagram โดย Meta

หากคุณได้เพิ่มพิกเซลของ Facebook ให้กับโค้ดธีมร้านค้าออนไลน์ของคุณก่อนแล้ว ให้ลบโค้ดพิกเซลของ Facebook ออกจากร้านค้าออนไลน์ของคุณหลังจากที่คุณตั้งค่าพิกเซลโดยการใช้ช่องทาง Facebook และ Instagram โดย Meta

พิกเซลของ Facebook ช่วยปรับปรุงความสามารถด้านการตลาดของร้านค้าและประสิทธิภาพของโฆษณาบน Facebook ได้ หากต้องการสร้างโฆษณาบน Facebook คุณจะต้องเชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้โฆษณา Facebook

การสร้างพิกเซลของ Facebook

คุณสามารถสร้างพิกเซลของ Facebook ใหม่ได้โดยตรงในช่องทาง Facebook และ Instagram โดย Meta โดยคลิกที่ "สร้างใหม่" ในกล่องตั้งค่าพิกเซล หรือคุณสามารถสร้างพิกเซลของ Facebook ได้ในตัวจัดการโฆษณาของ Facebookหากต้องการสร้างพิกเซลในตัวจัดการโฆษณาของ Facebook โปรดไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของFacebook

เพิ่มพิกเซลของ Facebook ในร้านค้าออนไลน์ของคุณ

เมื่อคุณเพิ่มพิกเซลของ Facebook ให้กับช่องทาง Facebook และ Instagram โดย Meta ของคุณ พิกเซลจะผสานกับร้านค้าออนไลน์ของคุณ โดยสามารถเพิ่มพิกเซลของ Facebook ได้เมื่อคุณกำลังตั้งค่า Instagram Shopping หรือ Facebook Shop ก่อนที่คุณจะสามารถเพิ่มพิกเซลของ Facebook ได้ คุณจำเป็นต้องเปิดใช้การแชร์ข้อมูลในส่วนการแชร์ข้อมูลลูกค้าก่อน

คุณสามารถจัดการพิกเซล Facebook ของคุณได้ในการตั้งค่าการแชร์ข้อมูลภายในส่วนการตั้งค่าของช่องทาง Facebook และ Instagram โดย Meta

ในส่วนการแชร์ข้อมูลลูกค้าของการตั้งค่าการแชร์ข้อมูลในช่องทาง Facebook และ Instagram โดย Meta ของคุณ จะมีรายการพิกเซลที่คุณสร้างขึ้นอยู่ ให้คลิกที่ "เชื่อมต่อ" เพื่อเชื่อมต่อพิกเซลของ Facebook ที่มีอยู่แล้ว หรือคลิกที่ "สร้างใหม่" เพื่อสร้างพิกเซลของ Facebook ใหม่

หลังจากเพิ่มพิกเซลของ Facebook ลงในร้านค้าออนไลน์แล้ว คุณสามารถใช้ตัวจัดการโฆษณาของ Facebook เพื่อตรวจสอบการทำงานของพิกเซลได้ ดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีสังเกตว่าพิกเซลของ Facebook ทำงานหรือไม่ได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Facebook

ขั้นตอน:

1. จากส่วน Shopify admin ของคุณ ให้คลิกการตั้งค่า>แอปและช่องทางการขาย

2. จากหน้าแอปและช่องทางการขายให้คลิก “Facebook”

3. คลิกที่ “เปิดช่องทางการขาย”

4. คลิก “การตั้งค่า” จากนั้นคลิก “การตั้งค่าการแชร์ข้อมูล”

5. ในส่วนการแชร์ข้อมูลลูกค้าให้คลิก “เปิดใช้งานการแชร์ข้อมูล”

6. ในส่วนเลือกระดับการแชร์ข้อมูลให้เลือก “มาตรฐาน”, “พิเศษ” หรือ “สูงสุด”

7. เลือกพิกเซลของคุณจากรายการ

8. คลิกยืนยัน

เปลี่ยนหรือลบพิกเซลของ Facebook ออกจากร้านค้าออนไลน์ของคุณ

ขั้นตอน:

1. จากส่วน Shopify admin ของคุณ ให้คลิกการตั้งค่า>แอปและช่องทางการขาย

2. จากหน้าแอปและช่องทางการขายให้คลิก “Facebook”

3. คลิกที่ “เปิดช่องทางการขาย”

4. คลิกที่การตั้งค่า

5. ในส่วนการตั้งค่าการแชร์ข้อมูลให้คลิก “ยกเลิกการเชื่อมต่อ” เพื่อลบพิกเซลปัจจุบันของคุณ

6. เชื่อมต่อพิกเซลอื่นหรือสร้างพิกเซลใหม่

หากคุณได้แก้ไขโค้ดไฟล์ธีมของคุณเพื่อเพิ่มพิกเซลของ Facebook คุณจำเป็นต้องลบโค้ดพิกเซลก่อนจึงจะสามารถเพิ่ม ID ของพิกเซลของ Facebook โดยใช้ช่องทาง Facebook และ Instagram โดย Meta ได้ หากคุณไม่ลบโค้ดพิกเซล ร้านค้าของคุณจะมีพิกเซลมากกว่าหนึ่งรายการ ซึ่งอาจส่งผลให้รายงานของคุณมีข้อมูลซ้ำหรือข้อมูลไม่ถูกต้องได้

การลบโค้ดพิกเซลออกจากไฟล์ธีมของคุณ

1. ในส่วนธีมปัจจุบันให้คลิกการดำเนินการแล้วเลือกแก้ไขโค้ด
2. คลิกไฟล์theme.liquidเพื่อเปิดเครื่องมือแก้ไขโค้ด
3. ลบโค้ดพิกเซลของ Facebook ออก โดยโค้ดจะอยู่ระหว่างแท็กและ
4. คลิกบันทึก

ลบพิกเซล Facebook ของคุณในการกำหนดลักษณะร้านค้าออนไลน์ของคุณ

1. จากส่วน Shopify admin ของคุณ ให้คลิกการตั้งค่า>แอปและช่องทางการขาย

2. จากหน้าแอปและช่องทางการขายให้คลิก “欧宝体育官网入口首页”

3. คลิกที่ “เปิดช่องทางการขาย”

4. คลิกที่การกำหนดลักษณะ

5. ในส่วนพิกเซลของ Facebookให้คลิก “เปลี่ยน”

6. ลบพิกเซลของ Facebook จากนั้นคลิก “บันทึก”

เหตุการณ์การแชร์ข้อมูลลูกค้า

หลังจากที่คุณเพิ่มพิกเซลของ Facebook ใน Shopify แล้วพิกเซลจะติดตามเหตุการณ์บางอย่างในร้านค้าออนไลน์ของคุณ เช่น เมื่อลูกค้าเข้าชมหน้าใดหน้าหนึ่ง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมการแชร์ข้อมูลลูกค้า โปรดดูที่การแชร์ข้อมูลของ Facebook