การวัดประสิทธิภาพทางการตลาด

คุณสามารถดูผลลัพธ์ของความพยายามทางการตลาดได้จากส่วนการตลาดใน Shopify admin ของคุณ โดยข้อมูลในส่วนการตลาดประกอบด้วย:

  • ข้อมูลสรุปทางการตลาด - ตัวชี้วัดประสิทธิภาพทางการตลาดที่สำคัญซึ่งมีการติดตามตลอดระยะเวลาหนึ่ง
  • ช่องทางการตลาด - ช่องทางการตลาดและผลลัพธ์ของช่องทางการตลาดจะวัดโดยอิงจากตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่สำคัญ (ตัวอย่างเช่น ยอดขาย เซสชัน มูลค่าคำสั่งซื้อโดยเฉลี่ย และอัตราคอนเวอร์ชัน)
  • กิจกรรมทางการตลาด - กิจกรรมและผลลัพธ์ทางการตลาดล่าสุดของคุณ ซึ่งสามารถกรองตามช่องทางได้

หากต้องการดูข้อมูลประสิทธิภาพทางการตลาด ให้ไปที่หน้าการตลาดใน Shopify admin ของคุณ

ข้อมูลสรุปทางการตลาด

คุณสามารถดูข้อมูลสรุปของผลลัพธ์ทางการตลาดได้ในหน้าการตลาดตามค่าเริ่มต้นแล้ว ช่วงวันที่จะแสดงช่วง 30 วันที่ผ่านมา และเปรียบเทียบกับช่วง 30 วันก่อนหน้า คุณสามารถเปลี่ยนช่วงวันที่และช่วงวันที่เปรียบเทียบได้โดยใช้เครื่องมือเลือกวันที่

โดยสรุปจะประกอบด้วยเกณฑ์ชี้วัดดังต่อไปนี้:

  • เซสชันร้านค้าออนไลน์- จํานวนเซสชันทั้งหมดบนร้านค้าออนไลน์ของคุณ เซสชันคือช่วงเวลาที่ผู้เยี่ยมชมได้ทำกิจกรรมแบบต่อเนื่อง โดยที่การเยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์ของคุณแต่ละครั้งห่างกันไม่ถึง 30 นาที
  • อัตราคอนเวอร์ชั่นของร้านค้าออนไลน์- เปอร์เซ็นต์ของเซสชันที่ทำให้เกิดการสั่งซื้อจากจำนวนเซสชันทั้งหมด
  • มูลค่าคำสั่งซื้อโดยเฉลี่ย (AOV)- ค่าเฉลี่ยของคำสั่งซื้อทั้งหมด โดยคํานวณจากยอดขายรวมลบด้วยส่วนลด แล้วหารด้วยจํานวนคำสั่งซื้อทั้งหมด
  • ยอดขายรวม- ยอดขายสุทธิ (ยอดขายรวมลบด้วยส่วนลดและเงินคืน) บวกภาษีและค่าจัดส่ง การคํานวณจะรวมเฉพาะคำสั่งซื้อจากยอดเข้าชมร้านค้าออนไลน์เท่านั้น ไม่ใช่จากทุกช่องทางการขาย
  • ยอดขายที่เป็นผลมาจากการตลาด- จำนวนยอดขายทั้งหมดที่มีที่มาจากการเข้าชมร้านค้าออนไลน์ซึ่งมาจากแคมเปญทางการตลาดที่สร้างขึ้นใน Shopify และแหล่งการตลาดภายนอกใดๆ ที่แชร์ข้อมูลกับ Shopify
  • คำสั่งซื้อที่เป็นผลมาจากการตลาด- จำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดที่มีที่มาจากการเข้าชมร้านค้าออนไลน์ซึ่งมาจากแคมเปญทางการตลาดที่สร้างขึ้นใน Shopify และแหล่งการตลาดภายนอกใดๆ ที่แชร์ข้อมูลกับ Shopify

คุณสามารถคลิก “ดูรายงาน” ของเกณฑ์ชี้วัดแต่ละเกณฑ์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกณฑ์ชี้วัดดังกล่าวได้

ข้อมูลเชิงลึกของผู้เข้าชมร้านค้า

คุณสามารถดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับยอดเข้าชมร้านค้าออนไลน์ของคุณ รวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้ได้ในหน้าการตลาดใน Shopify:

  • ยอดเข้าชมร้านค้าออนไลน์ตลอดระยะเวลาหนึ่ง- เซสชันทั้งหมดภายในช่วงเวลาที่เลือก เทียบกับเซสชันทั้งหมดจากช่วงเวลาก่อนหน้า
  • คอนเวอร์ชันร้านค้าออนไลน์- เปอร์เซ็นต์ของเซสชันร้านค้าออนไลน์ที่ทำให้เกิดคำสั่งซื้อเทียบกับจำนวนเซสชันทั้งหมดที่มีและไม่มีการคอนเวิร์ท
  • แหล่งที่มายอดนิยมของผู้เยี่ยมชม- แหล่งที่มาออนไลน์ที่ทำให้เกิดเซสชันร้านค้าออนไลน์มากที่สุดในช่วงเวลาที่เลือก
  • แหล่งที่มาของยอดขายสูงสุด- แหล่งที่มาของเซสชันร้านค้าออนไลน์ที่สร้างยอดขายรวมสูงสุดภายในช่วงเวลาที่เลือก
  • ตำแหน่งที่ตั้งยอดนิยมของผู้เยี่ยมชม- ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับเซสชันร้านค้าออนไลน์ที่สูงที่สุดในช่วงเวลาที่เลือก

ดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับยอดเข้าชมร้านค้าออนไลน์ของคุณ

ขั้นตอน

  1. เลื่อนเมาส์ไปที่ไอคอนรายงานในหน้าการตลาดใน Shopify admin ของคุณ
  2. คลิก “ดูรายงาน” ใต้เซสชันร้านค้าออนไลน์

ข้อมูลเชิงลึกของการเข้าชมร้านค้าออนไลน์บางรายการจะเชื่อมโยงไปยังรายงานที่มีข้อมูลเพิ่มเติม มี 3 รายงานที่สามารถเข้าถึงได้จากข้อมูลเชิงลึกของการเข้าชม ดังนี้

รายงานแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมยอดนิยม

แสดงแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์ยอดนิยมตามจำนวนทั้งหมดของเซสชัน คำสั่งซื้อ มูลค่าคำสั่งซื้อ หรืออัตราคอนเวอร์ชัน มูลค่าคำสั่งซื้อประกอบด้วยภาษีและการจัดส่ง แต่จะแตกต่างจากยอดขายรวมไม่รวมการคืนสินค้า

รายงานแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมยอดนิยมประกอบด้วยคอลัมน์ต่อไปนี้:

  • แหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชม- เว็บไซต์หรือบริการที่ลูกค้าใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ
  • อัตราคอนเวอร์ชัน- เปอร์เซ็นต์ของเซสชันที่ทำให้เกิดการสั่งซื้อ
  • คำสั่งซื้อ- จำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดที่เป็นผลมาจากเซสชันจากแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมแต่ละแหล่ง
  • มูลค่าคำสั่งซื้อ- มูลค่ารวมของคำสั่งซื้อใดๆ ที่เป็นผลมาจากเซสชันจากแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมแต่ละแหล่ง มูลค่าคำสั่งซื้อประกอบด้วยภาษีและการจัดส่ง แต่จะแตกต่างจากยอดขายรวมไม่รวมการคืนสินค้า
  • เซสชัน- จำนวนทั้งหมดของเซสชันในร้านค้าออนไลน์ของคุณจากแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมแต่ละแหล่ง

รายงานตำแหน่งที่ตั้งการเข้าชมยอดนิยม

แสดงตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์บยอดนิยมของร้านค้าออนไลน์ตามจำนวนทั้งหมดของเซสชัน คำสั่งซื้อ มูลค่าคำสั่งซื้อ หรืออัตราคอนเวอร์ชัน มูลค่าคำสั่งซื้อประกอบด้วยภาษีและการจัดส่ง แต่จะแตกต่างจากยอดขายรวมไม่รวมการคืนสินค้า

รายงานตำแหน่งที่ตั้งการเข้าชมยอดนิยมประกอบด้วยคอลัมน์ต่อไปนี้:

  • ตำแหน่งที่ตั้ง- ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ลูกค้าอยู่ขณะที่พวกเขาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ
  • อัตราคอนเวอร์ชัน- เปอร์เซ็นต์ของเซสชันที่ทำให้เกิดการสั่งซื้อ
  • คำสั่งซื้อ- จำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดที่เป็นผลมาจากเซสชันจากแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมแต่ละแหล่ง
  • มูลค่าคำสั่งซื้อ- มูลค่ารวมของคำสั่งซื้อใดๆ ที่เป็นผลมาจากเซสชันจากแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมแต่ละแหล่ง มูลค่าคำสั่งซื้อประกอบด้วยภาษีและการจัดส่ง แต่จะแตกต่างจากยอดขายรวมไม่รวมการคืนสินค้า
  • เซสชัน- จำนวนทั้งหมดของเซสชันในร้านค้าออนไลน์ของคุณจากแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมแต่ละแหล่ง

รายงานคอนเวอร์ชันของร้านค้าออนไลน์

แสดงอัตราที่ลูกค้าคอนเวิร์ทจากเซสชันไปเป็นยอดขาย รายงานจะแสดงจํานวนเซสชันที่เข้าถึงแต่ละขั้นในกราฟคอนเวอร์ชัน ตั้งแต่ตอนเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณ ไปจนถึงตอนเพิ่มสินค้าลงในตะกร้าสินค้า ตอนเข้าสู่การชำระเงิน และขั้นตอนสุดท้ายคือการคอนเวิร์ทหรือการเสร็จสิ้นการชำระเงิน รายงานนี้ยังมีแผนภาพที่มองเห็นได้แสดงเซสชันผ่านขั้นตอนของคอนเวอร์ชั่นอีกด้วย

รายงานคอนเวอร์ชันของร้านค้าออนไลน์ประกอบด้วยคอลัมน์ต่อไปนี้:

  • ขั้นตอนคอนเวอร์ชัน- ขั้นตอนในกราฟคอนเวอร์ชันที่ผู้เยี่ยมชมเข้าถึง
  • เซสชัน- จำนวนทั้งหมดของเซสชันในร้านค้าออนไลน์ของคุณที่ผู้เยี่ยมชมเข้าถึงในแต่ละขั้นตอน

เมื่อคุณจัดเรียงเซสชันตามค่าจากน้อยไปหามากหรือมากไปหาน้อยในรายงานคอนเวอร์ชันร้านค้าออนไลน์ระบบจะจัดเรียงเฉพาะแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมในแต่ละหมวดหมู่การรายงานเท่านั้น หมวดหมู่การรายงานต่างๆ เช่นจำนวนผู้เยี่ยมชมทั้งหมดหรือการเพิ่มลงในตะกร้าสินค้าจะไม่จัดเรียงตามยอดรวม

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณมีผู้เข้าชมจาก Facebook และ DuckDuckGo หากคุณจัดเรียงรายงานตามเซสชันจะมีเพียงคำสั่งซื้อของ Facebook และ DuckDuckGo เท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงในแต่ละหมวดหมู่การรายงาน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานการตลาดในส่วนข้อมูลวิเคราะห์ดูที่รายงานการตลาดหากคุณต้องการดูรายงานเรื่องผลลัพธ์ของแคมเปญทางการตลาดที่ใช้แอปการตลาดจากภายนอก ดูที่รายงานกิจกรรมทางการตลาด

ยอดขายและคำสั่งซื้อที่เป็นผลมาจากการตลาด

คุณสามารถดูจํานวนยอดขายและเซสชันที่มาจากกิจกรรมทางการตลาดได้ในข้อมูลสรุปทางการตลาดหากต้องการรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ให้คลิก “ดูรายงาน

รายงานและโมเดลข้อมูลต่อไปนี้พร้อมให้ใช้งานเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจยอดขายและคำสั่งซื้อที่เป็นผลมาจากกิจกรรมทางการตลาดแบบมีรายละเอียดมากขึ้น:

รายงานประสิทธิภาพของช่องทางยอดนิยม

รายงานประสิทธิภาพของช่องทางยอดนิยมจะแสดงช่องทางการตลาดยอดนิยม 5 อันดับแรกของร้านค้าของคุณ และรายละเอียดของแต่ละช่องทางตามยอดขาย เซสชัน คำสั่งซื้อ อัตราคอนเวอร์ชัน มูลค่าคำสั่งซื้อโดยเฉลี่ย (AOV) ผู้เป็นลูกค้าครั้งแรก และลูกค้าที่กลับมาซื้ออีกครั้ง

คุณสามารถคลิก “ดูช่องทางทั้งหมด” เพื่อเข้าถึงรายงานประสิทธิภาพของช่องทางฉบับเต็มสำหรับช่องทางการตลาดทั้งหมดของร้านค้าคุณได้

รายงานประสิทธิภาพของช่องทาง

คุณสามารถดูรายการช่องทางการตลาดทั้งหมดและผลลัพธ์คอนเวอร์ชันของช่องทางต่างๆ ในกรอบเวลาที่เลือกได้จากรายงานประสิทธิภาพของช่องทางกราฟจะแสดงเส้นแนวโน้มของช่องทางยอดนิยม 5 อันดับแรก โดยอิงจากเกณฑ์ที่คุณเลือกแสดง โดยคุณสามารถปรับกราฟในหน้านี้ได้ตามเกณฑ์ต่อไปนี้:

  • กรอบเวลา: เลือกวันที่ภายในกรอบเวลาที่กําหนดไว้ล่วงหน้า เช่นปีที่ผ่านมาหรือเลือกวันที่สำหรับกรอบเวลาแบบกําหนดเอง
  • ตัวชี้วัดที่พร้อมใช้งาน: ดูข้อมูลยอดขาย เซสชัน AOV คอนเวอร์ชัน ผู้เป็นลูกค้าครั้งแรก และลูกค้าที่กลับมาซื้ออีกครั้ง
  • โมเดลการระบุแหล่งที่มา: แสดงข้อมูลการระบุแหล่งที่มาโดยอิงจากการคลิกครั้งสุดท้าย การคลิกครั้งแรก หรือการคลิกที่ไม่ใช่โดยตรงครั้งล่าสุด

ตารางแสดงข้อมูลของช่องทางการตลาดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าของคุณ รวมถึงข้อมูลแบบออร์แกนิก ชําระเงิน และที่ไม่ระบุแหล่งที่มา คุณสามารถแก้ไขคอลัมน์ได้โดยคลิกที่ไอคอนคอลัมน์ จากนั้นเพิ่มหรือลบตัวชี้วัดตามความต้องการของร้านค้าคุณ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถจัดเรียงตารางได้โดยคลิกที่ตัวชี้วัดที่สําคัญต่อธุรกิจของคุณมากที่สุด ตัวอย่างเช่น คุณสามารถคลิกที่ “ยอดขาย” เพื่อจัดเรียงตารางตามยอดขายที่มีมูลค่ามากที่สุดหรือน้อยที่สุดได้ หรือคุณสามารถคลิกที่ “เซสชัน” เพื่อจัดเรียงช่องทางตามจํานวนเซสชันสูงสุดหรือต่ำสุด เพื่อให้คุณทราบว่าช่องทางการตลาดใดสร้างยอดเข้าชมให้ร้านค้าของคุณได้มากที่สุด

รายงานกิจกรรมทางการตลาด

จากรายงานประสิทธิภาพของช่องทางให้คลิกที่ชื่อช่องทางใดช่องทางหนึ่ง (เช่น Google) เพื่อดูรายงานที่แสดงกิจกรรมทางการตลาดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับช่องทางนั้น ข้อมูลในรายงานนี้เป็นชุดข้อมูลเกี่ยวกับยอดเข้าชมร้านค้าที่ลูกค้าใช้ลิงก์ที่มีพารามิเตอร์ UTM และข้อมูลจากแอปการตลาดแบบผสานการทำงาน

คุณสามารถดูรายงานนี้เพื่อแสดงข้อมูลภายในช่วงวันที่ที่เลือกและอิงตามโมเดลการระบุแหล่งที่มาที่แตกต่างกันได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้รายงานนี้เพื่อดูกิจกรรมทางการตลาดทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับร้านค้าของคุณได้ โดยการยกเลิกการเลือกช่องทางทั้งหมด

โมเดลการระบุแหล่งที่มา

มีโมเดลการระบุแหล่งที่มา 3 โมเดลที่คุณสามารถใช้กับข้อมูลกิจกรรมทางการตลาดเพื่อทำความเข้าใจเส้นทางการซื้อของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

  • การคลิกครั้งล่าสุดที่ไม่ใช่โดยตรง: ให้เครดิต 100% กับการคลิกครั้งล่าสุดของช่องทางก่อนคอนเวอร์ชั่น ซึ่งไม่รวมการคลิกโดยตรงเว้นแต่ว่าจะเป็นช่องทางเดียวที่มีการติดตาม
  • การคลิกครั้งล่าสุด: มอบเครดิต 100% ให้กับเหตุการณ์การคลิกครั้งล่าสุดของลูกค้าก่อนที่ลูกค้าจะสั่งซื้อ
  • การคลิกครั้งแรก: ให้เครดิต 100% กับเหตุการณ์การคลิกครั้งแรกของผู้ซื้อก่อนที่พวกเขาจะซื้อ

โมเดลการระบุแหล่งที่มาเหล่านี้สามารถใช้เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องทางที่ลูกค้าโต้ตอบด้วยเป็นช่องทางแรก ช่องทางที่นำไปสู่คอนเวอร์ชัน และช่องทางที่ทำให้เกิดกระบวนการคอนเวอร์ชั่น เพื่อให้คุณค้นพบว่าลูกค้าคอนเวิร์ทเมื่อใดและที่ใดในเส้นทางการซื้อ ลองใช้โมเดลการระบุแหล่งที่มามากกว่าหนึ่งโมเดลในการวิเคราะห์ข้อมูลของคุณ เพื่อให้คุณสามารถดูเส้นทางการซื้อของลูกค้าได้จากแง่มุมที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการนี้จะช่วยคุณลดอคติในการตีความข้อมูลและสรุปได้สมบูรณ์มากกว่าตอนที่คุณใช้โมเดลการระบุแหล่งที่มาแค่เพียงโมเดลเดียว

รายงานต่อไปนี้สามารถแสดงข้อมูลโดยอิงจากโมเดลการระบุแหล่งที่มาเหล่านี้ได้:

  • รายงานประสิทธิภาพของช่องทางยอดนิยม
  • รายงานประสิทธิภาพช่องทาง

ข้อมูลข้ามอุปกรณ์

ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ช่วยให้คุณเห็นภาพที่สมบูรณ์ของเส้นทางการซื้อของลูกค้าขณะที่สลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ เช่น แล็ปท็อปหรืออุปกรณ์มือถือ

ตัวอย่างหนึ่งของเส้นทางของลูกค้าข้ามอุปกรณ์คือ ลูกค้าคลิกที่โฆษณาใน Instagram จากอุปกรณ์มือถือ จากนั้นลูกค้าจะเรียกดูร้านค้าออนไลน์ของคุณด้วยอุปกรณ์มือถือและระบุอีเมลไว้ให้ แต่ออกจากร้านค้าไปก่อนโดยไม่มีการซื้อ ลูกค้าได้รับอีเมลจากร้านค้าของคุณในอีกสองสามวันถัดจากนั้น ลูกค้าเปิดอีเมลจากแล็ปท็อป เข้าชมร้านค้าออนไลน์ของคุณ และซื้อสินค้า

ในตัวอย่างข้างต้นหากไม่มีข้อมูลข้ามอุปกรณ์ โฆษณาบน Instagram จะไม่ได้รับเครดิตใดๆ จากลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านอุปกรณ์อื่น การรู้ว่าช่องทางใดบ้างที่สนับสนุนเส้นทางการซื้อยอดนิยมของคุณจะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้จ่ายทางการตลาดได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นและส่งข้อความที่เหมาะสมแก่ลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม

กิจกรรมของแอปการตลาดที่ติดตั้ง

คุณสามารถดูรายงานคอนเวอร์ชันของกิจกรรมทางการตลาดล่าสุดที่คุณสร้างใน Shopify ได้ในหน้าการตลาด

ผลลัพธ์ที่แสดงในรายงานกิจกรรมทางการตลาดขึ้นอยู่กับประเภทของกิจกรรม ตัวอย่างเช่น หากกำลังเผยแพร่โฆษณา คุณจะเห็นข้อมูลที่เจาะจงของแต่ละโฆษณา เช่น ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา อิมเพรสชั่น และจำนวนคลิก หากเขียนโพสต์ต่างๆ ลง Facebook คุณจะไม่เห็นข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการโฆษณา รายงานสำหรับกิจกรรมทางการตลาดที่สร้างโดยใช้แอปจากภายนอกจะมีเพียงข้อมูลที่ใช้งานได้สำหรับ Shopify จากแอป

เมื่อคุณได้รับคำสั่งซื้อที่มีการระบุที่มาจากกิจกรรมทางการตลาด คุณยังสามารถดูรายละเอียดคอนเวอร์ชันได้จากหน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อได้ด้วย

รายงานกิจกรรมทางการตลาดจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการโต้ตอบที่ระบุที่มาได้จากกิจกรรมทางการตลาดที่คุณขึ้นใน Shopify คุณสามารถใช้รายงานดังกล่าวเพื่อศึกษาประสิทธิผลของกิจกรรมทางการตลาดของคุณได้

เซสชันและยอดขายต่างๆ ที่มาจากกิจกรรมทางการตลาดที่คุณสร้างขึ้นใน Shopify จะอิงจากการโต้ตอบแบบคลิกครั้งสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้ารายหนึ่งคลิกที่โฆษณา Facebook ที่คุณสร้างขึ้นใน Shopify ก่อนที่จะดำเนินการสั่งซื้อ ระบบจะระบุว่ายอดขายดังกล่าวมีที่มาจากกิจกรรมแคมเปญทางการตลาดที่หมายถึงโฆษณา Facebook ใน Shopify

กิจกรรมทางการตลาดที่สร้างขึ้นโดยใช้แอปจากภายนอกจะแสดงอยู่ในส่วนกิจกรรมของแอปการตลาดที่ติดตั้งในหน้าการตลาดของ Shopify หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปจากภายนอกที่คุณสามารถใช้ในการสร้างกิจกรรมการตลาด ให้ดูที่คอลเลกชันแอปที่ทำงานร่วมกับ Shopify Marketingใน Shopify App Store สำหรับรายละเอียดการตั้งค่ากิจกรรมทางการตลาดของคุณด้วยแอปจากภายนอก ให้ดูที่เอกสารประกอบของแอป

รายงานที่ว่านี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์บางส่วนของกิจกรรมทางการตลาดที่คุณสร้างขึ้นใน Shopify:

  • เซสชัน: จำนวนเซสชันจากกิจกรรมทางการตลาดของคุณ เซสชันคือช่วงเวลาที่ผู้เยี่ยมชมทำกิจกรรมต่อเนื่อง รวมผู้เยี่ยมชมรายใหม่และผู้ที่กลับมาเยี่ยมชมอีกครั้ง
  • ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา: จำนวนเงินที่ใช้ไปกับกิจกรรมทางการตลาด
  • เพิ่มลงในตะกร้าสินค้าแล้ว: จำนวนเซสชันทั้งหมดที่ลูกค้าได้เพิ่มสินค้าลงในตะกร้า
  • คำสั่งซื้อ: จำนวนเซสชันทั้งหมดที่มีการสั่งซื้อ
  • อัตราการสั่งซื้อ: เปอร์เซ็นต์ของเซสชันที่มีการสั่งซื้อ
  • ยอดขาย: ยอดขายรวมจากคำสั่งซื้อที่มาจากกิจกรรมทางการตลาด ประกอบด้วยยอดขายรวม การจัดส่ง และภาษี โดยไม่รวมส่วนลดและการคืนสินค้า
  • อิมเพรสชั่น: จำนวนครั้งที่มีผู้ดูกิจกรรมทางการตลาด
  • เปิด: จํานวนผู้รับที่ไม่ซ้ำกันที่เปิดกิจกรรมอีเมล
  • คลิกแล้ว: จํานวนครั้งที่ลูกค้าโต้ตอบกับกิจกรรมทางการตลาด เช่น เมื่อลูกค้าคลิกที่ปุ่ม แตะหน้าจอของพวกเขา หรือคลิกลิงก์จากอีเมล
  • อัตราการคลิกผ่าน (CTR): เปอร์เซ็นต์การโต้ตอบกับเนื้อหาของคุณ เช่น เมื่อลูกค้าคลิกลิงก์ เทียบกับจํานวนครั้งที่มีคนดูเนื้อหา

ความคลาดเคลื่อนของข้อมูลรายงานสำหรับกิจกรรมทางการตลาดที่สร้างขึ้นใน Shopify

หากคุณสร้างกิจกรรมทางการตลาดใน Shopify แล้วดูรายงานของ Shopify คู่กับรายงานจากภายนอกที่เกี่ยวข้อง คุณอาจพบเห็นความแตกต่างเป็นบางส่วน ซึ่งมีสาเหตุเนื่องมาจากความแตกต่างของวิธีที่ Shopify กับที่อื่นใช้ในการระบุที่มาของการปฏิสัมพันธ์ ยอดขาย อีกทั้งยังรวมถึงความล่าช้าในการซิงค์ข้อมูลด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณสร้างโฆษณา Facebook ใน Shopify แล้วดูรายงานคอนเวอร์ชันสำหรับกิจกรรมดังกล่าวใน Shopify ควบคู่ไปกับข้อมูลของโฆษณาที่ว่านี้ใน Facebook รายงานทั้งสองฉบับก็อาจจะแสดงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันได้

ข้อแตกต่างของการระบุแหล่งที่มา

คุณอาจะเห็นข้อแตกต่างด้านยอดขายและข้อมูลคำสั่งซื้อระหว่างรายงานกิจกรรมทางการตลาดของ Shopify และรายงานจากแอปการตลาดหรือแพลตฟอร์มภายนอก ซึ่งคุณใช้เพื่อสร้างกิจกรรมทางการตลาด

เช่นหากคุณใช้แคมเปญทางอีเมลและแคมเปญ谷歌Shopping พร้อมกัน ในกรณีนี้ หากลูกค้าคลิกทั้งอีเมลของคุณและโฆษณา Google Shopping ระบบจะบันทึกคอนเวอร์ชันของพวกเขาแยกส่วนกัน แต่รายงานกิจกรรมทางการตลาดของ Shopify จะระบุแหล่งที่มาของยอดขายเฉพาะแหล่งที่มาจากโฆษณาซึ่งคลิกในช่วง 30 วันที่ผ่านมาเท่านั้น

ข้อแตกต่างของค่าใช้จ่ายในการโฆษณา

คุณอาจเห็นข้อแตกต่างระหว่างข้อมูลค่าใช้จ่ายในการโฆษณาในรายงานกิจกรรมทางการตลาดของ Shopify เมื่อเทียบกับรายงานจากภายนอกสำหรับบริการเดียวกัน เช่น คุณอาจเห็นค่าใช้จ่ายในการโฆษณาสำหรับแคมเปญ Facebook มูลค่า 10 ดอลลาร์ในรายงานกิจกรรมทางการตลาดของ Shopify แต่ในตัวจัดการโฆษณาของ Facebook แสดงมูลค่าเป็น 13 ดอลลาร์ร์สำหรับแคมเปญเดียวกัน ยอดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาสำหรับแอปการตลาดอาจใช้เวลาซิงค์ข้อมูลกับ Shopify ถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งความล่าช้านี้อาจก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อน ขีดจำกัดค่าใช้จ่ายของคุณควบคุมโดยบริการโฆษณา ดังนั้นความล่าช้านี้ไม่ทำให้คุณใช้จ่ายเกินงบที่กำหนดไว้

พร้อมเริ่มต้นการขายด้วย Shopify แล้วหรือยัง

ทดลองใช้งานฟรี