การจัดการบัญชีผู้ใช้Shopifyของคุณ
จากหน้าการตั้งค่าคุณสามารถจัดการแผนการสมัครใช้งานShopifyประเภทร้านค้าและสถานะร้านค้าได้
หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์ของพนักงานที่ควบคุมโดยเจ้าของร้านโปรดดูที่สิทธิ์ของพนักงานและหากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนสถานะของร้านค้าคุณโปรดดูที่การปิดใช้งานหรือหยุดใช้งานร้านค้าของคุณชั่วคราว
ตรวจสอบบัญชีของคุณ
บัญชีผู้ใช้ของคุณจะระบุด้วยชื่อโดเมน.myshopify.com
ซึ่งมีการกำหนดขึ้นเมื่อคุณตั้งค่าบัญชีผู้ใช้Shopifyของคุณเป็นครั้งแรก
ฝ่ายช่วยเหลือของShopifyจะขอชื่อโดเมนของคุณหากคุณติดต่อขอความช่วยเหลือโดยคุณจะต้องระบุชื่อโดเมนเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของร้านนั้นจริงหากคุณตั้งค่าโดเมนแบบกำหนดเองไว้สำหรับร้านค้าของคุณชื่อโดเมน.myshopify.com
ของคุณจะแตกต่างจากชื่อโดเมนหรือurlที่ลูกค้าเห็น
แม้ว่าคุณจะเปลี่ยนชื่อร้านค้าออนไลน์ที่ปรากฏต่อลูกค้าของคุณหรือชื่อธุรกิจที่จดทะเบียนของคุณชื่อโดเมน.myshopify.com
ของคุณจะยังคงเหมือนเดิม
คุณสามารถดูชื่อโดเมน.myshopify.com
ของตัวเองได้จากแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์เมื่อคุณเข้าสู่ระบบส่วนadminของร้านค้าคุณ
อัปเดตแผนของคุณ
คุณสามารถอัปเดตแผนของคุณให้เป็นแผนที่พร้อมใช้งานในปัจจุบันเท่านั้นซึ่งคุณสามารถดูได้ในหน้าการกําหนดราคาของShopifyหากร้านค้าของคุณอยู่ในแผนที่เลิกใช้งานแล้วคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นแผนเดิมได้หากคุณเปลี่ยนแผนหรือหยุดร้านค้าชั่วคราว
หากคุณอัปเดตแผนการใช้งานของคุณระบบจะออกใบเรียกเก็บเงินให้ทันทีโดยแสดงเฉพาะค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกสำหรับแผนใหม่ของคุณราคาของแผนก่อนหน้าของคุณจะคิดตามสัดส่วนการใช้งานและนำไปรวมกับค่าใช้จ่ายของการสมัครใช้งานใหม่ของคุณในเดือนที่คุณเปลี่ยนแปลงแผนของคุณใบเรียกเก็บเงินที่คุณได้รับจากการเปลี่ยนแปลงแผนจะยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการในบัญชีของคุณค่าใช้จ่ายที่รอดำเนินการเหล่านี้จะถูกเรียกเก็บเมื่อค่าธรรมเนียมคงค้างในบัญชีถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณหรือเมื่อสิ้นสุดรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ
ตรวจสอบแผนปัจจุบันของคุณ
- จากส่วนShopify adminให้คลิก"การตั้งค่า“จากนั้นคลิก”แผน”
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- แตะที่”แผน“ใต้การตั้งค่าร้านค้า
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- ให้แตะที่”แผน“จากในส่วน”การตั้งค่าร้านค้า”
อัปเกรดแผนของคุณ
หากร้านค้าของคุณอยู่ในช่วงการทดลองใช้ฟรีเมื่อคุณอัปเกรดแผนคุณจะไม่สูญเสียข้อมูลร้านค้าใดๆและระยะเวลาของช่วงการทดลองใช้ฟรีจะยังคงเท่าเดิม
การอัปเกรดจะมีผลทันทีคุณสามารถใช้แผนใหม่ของคุณได้ทันทีและระบบจะคำนวนค่าบริการสำหรับแผนของคุณตามสัดส่วนดังนั้นคุณจะถูกเรียกเก็บเงินสำหรับแผนใหม่โดยเริ่มตั้งแต่วันที่คุณอัปเกรด
หากต้องการอัปเกรดแผนคุณจะต้องเป็นเจ้าของร้านหรือสมาชิกพนักงานที่มีสิทธิ์อนุญาตจัดการแผน
ขั้นตอน:
- เข้าสู่ระบบร้านค้าของคุณ
- จากส่วนShopify adminให้คลิก"การตั้งค่า“จากนั้นคลิก”แผน”
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- แตะที่”แผน“ใต้การตั้งค่าร้านค้า
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- ให้แตะที่”แผน“จากในส่วน”การตั้งค่าร้านค้า”
คลิก”เปลี่ยนแผน”
ตรวจสอบแผนที่พร้อมใช้งานในปัจจุบันจากนั้นคลิก”เลือกแผน”
เลือกรอบการเรียกเก็บเงินและอ่านคำอธิบายการเรียกเก็บเงินของบัตรเครดิตที่คุณยอมรับ
คลิก”เริ่ม“เพื่อยอมรับข้อตกลงใหม่หรือคลิกที่”ยกเลิก”
เปลี่ยนแผนของคุณ
หากคุณต้องการเปลี่ยนแผนของคุณคุณสามารถเลือกหนึ่งในตัวเลือกที่มีได้
คุณสามารถใช้แผนใหม่ของคุณได้ทันทีและระบบจะคำนวนค่าบริการสำหรับแผนของคุณตามสัดส่วนดังนั้นคุณจะถูกเรียกเก็บเงินสำหรับแผนใหม่โดยเริ่มตั้งแต่วันที่คุณอัปเกรดหากคุณเปลี่ยนรอบการเรียกเก็บเงินแล้ว:
- ออกใบเรียกเก็บเงินแล้ว
- รอบการเรียกเก็บเงินใหม่สำหรับแผนใหม่ของคุณจะเริ่มขึ้น
- คุณจะได้รับเครดิตตามสัดส่วนหากแผนใหม่ของคุณมีค่าบริการน้อยกว่าแผนเดิม
หากคุณเปลี่ยนแผนโดยไม่เปลี่ยนแปลงรอบการเรียกเก็บเงินคุณจะยังคงใช้รอบการเรียกเก็บเงินเดิมและได้รับการปรับการเรียกเก็บของคุณหากคุณเปลี่ยนรอบการเรียกเก็บเงินใบเรียกเก็บเงินของแผนปัจจุบันของคุณจะถูกส่งให้คุณทันทีเพื่อเรียกเก็บเงินโดยในเวลาเดียวกันรอบการเรียกเก็บเงินใหม่จะเริ่มขึ้นตามแผนใหม่ของคุณและคุณจะได้รับเครดิตเป็นระยะเวลาที่ยังไม่ได้ชําระเงินไปแล้ว
หากต้องการเปลี่ยนแผนคุณต้องเป็นเจ้าของร้านค้าหรือพนักงานที่มีสิทธิ์จัดการแผน
ขั้นตอน:
- จากส่วนShopify adminให้คลิก"การตั้งค่า“จากนั้นคลิก”แผน”
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- แตะที่”แผน“ใต้การตั้งค่าร้านค้า
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- ให้แตะที่”แผน“จากในส่วน”การตั้งค่าร้านค้า”
คลิก”เปลี่ยนแผน“ในส่วน”รายละเอียดแผน“จากในหน้าแผน
ตรวจสอบแผนที่พร้อมใช้งานในปัจจุบันจากนั้นคลิก”เลือกแผน”
เลือกรอบการเรียกเก็บเงินและวิธีการชำระเงินจากนั้นตรวจสอบรายละเอียดแผนวันที่เรียกเก็บเงินและค่าใช้จ่ายของแผน
คลิก”เริ่มแผน“หากคุณไม่ต้องการเปลี่ยนแผนของคุณให้คลิก”ยกเลิก”
เปลี่ยนที่อยู่ร้านค้าของคุณ
ระบบจะใช้ที่อยู่ของร้านค้าคุณเพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้งของร้านค้าคุณการเปลี่ยนประเทศของร้านค้าคุณอาจส่งผลกระทบกับสิ่งต่อไปนี้:
- ค่าธรรมเนียมการสมัครใช้งานและสกุลเงินที่เรียกเก็บเงินของคุณ
- ภาษาและสกุลเงินท้องถิ่นของร้านค้าคุณ
- ภาระผูกพันด้านภาษีและอากรของคุณ
- ความพร้อมในการจัดส่ง
- สิทธิ์ของคุณในการเข้าถึงสินค้าและบริการของShopify
ข้อกำหนดในการใช้บริการของShopifyกำหนดให้คุณต้องคอยอัปเดตข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งที่ถูกต้องตามเขตอำนาจศาลปัจจุบันของคุณอยู่เสมอ
- จากส่วนShopify adminให้ไปที่การตั้งค่า
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- เลื่อนไปยังส่วนการตั้งค่าร้านค้า
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- เลื่อนไปยังส่วนการตั้งค่าร้านค้า
จากหน้ารายละเอียดร้านค้าให้คลิก”แก้ไข“ในส่วนที่อยู่
แก้ไขที่อยู่ของคุณ
เลื่อนไปที่ด้านล่างสุดของหน้าจากนั้นคลิก”บันทึก”
เปลี่ยนประเภทร้านค้าของคุณ
หากคุณเป็นเจ้าของร้านค้าหรือพนักงานที่ได้รับสิทธิ์อนุญาตจัดการและติดตั้งแอปและช่องทางคุณสามารถเปลี่ยนประเภทร้านค้าของคุณได้ทุกเมื่อ
ขั้นตอน:
- เข้าสู่ระบบในฐานะเจ้าของร้านค้า
- จากส่วนShopify adminให้ไปที่การตั้งค่า>ช่องทางการขาย
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- ใต้การตั้งค่าร้านค้าให้แตะช่องทางการขาย
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- ใต้การตั้งค่าร้านค้าให้แตะช่องทางการขาย
- จากหน้าการตั้งค่าช่องทางการขายคุณสามารถเพิ่มหรือลบร้านค้าออนไลน์ร้านค้าปลีก,Shopify POSหรือร้านค้าที่ใช้งานได้ประเภทอื่น
เปลี่ยนอีเมลบัญชีผู้ใช้ของร้านค้าของคุณ
ที่อยู่อีเมลบัญชีผู้ใช้ของคุณคือที่อยู่อีเมลที่คุณใช้ลงทะเบียนใช้งานShopifyหากคุณเป็นเจ้าของร้านค้าอีเมลนี้เป็นอีเมลที่คุณใช้เข้าสู่ระบบShopify adminที่อยู่อีเมลนี้จะใช้เพื่อติดต่อคุณเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้Shopifyและแยกจากที่อยู่อีเมลติดต่อร้านค้าที่ลูกค้าของคุณใช้ในการติดต่อคุณ
ระบบจะส่งใบเรียกเก็บเงินShopifyทางอีเมลไปให้เจ้าของร้านและพนักงานที่มีสิทธิ์อนุญาตในการดูการเรียกเก็บเงินและรับอีเมลการเรียกเก็บเงินหากต้องการเปลี่ยนอีเมลที่ใช้เข้าสู่ระบบShopify adminหรือเปลี่ยนอีเมลสำหรับรับใบเรียกเก็บเงินคุณต้องอัปเดตข้อมูลพนักงานของเจ้าของร้าน
ขั้นตอน:
จากส่วนShopify adminให้ไปที่การตั้งค่า>ผู้ใช้และสิทธิ์อนุญาต
ในส่วนเจ้าของร้านค้าให้คลิกที่ชื่อของคุณ
คลิกที่ดูการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้
เข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้ของคุณ
ในส่วนรายละเอียดให้คลิกที่เปลี่ยนอีเมล
ในกล่องอีเมลใหม่ให้ป้อนที่อยู่อีเมลใหม่ของคุณ
ในกล่องรหัสผ่านให้ป้อนรหัสผ่านปัจจุบันของคุณ
คลิกที่เปลี่ยนอีเมล
จากแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า>ผู้ใช้และสิทธิ์อนุญาต
ในส่วนเจ้าของร้านค้าให้แตะที่ชื่อของคุณ
แตะที่ดูการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้
เข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้ของคุณ
ในส่วนรายละเอียดให้แตะที่เปลี่ยนอีเมล
ในกล่องอีเมลใหม่ให้ป้อนที่อยู่อีเมลใหม่ของคุณ
ในกล่องรหัสผ่านให้ป้อนรหัสผ่านปัจจุบันของคุณ
แตะที่เปลี่ยนอีเมล
จากแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า>ผู้ใช้และสิทธิ์อนุญาต
ในส่วนเจ้าของร้านค้าให้แตะที่ชื่อของคุณ
แตะที่ดูการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้
เข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้ของคุณ
ในส่วนรายละเอียดให้แตะที่เปลี่ยนอีเมล
ในกล่องอีเมลใหม่ให้ป้อนที่อยู่อีเมลใหม่ของคุณ
ในกล่องรหัสผ่านให้ป้อนรหัสผ่านปัจจุบันของคุณ
แตะที่เปลี่ยนอีเมล
เปลี่ยนอีเมลที่แสดงให้ลูกค้าเห็นบนร้านค้าของคุณ
ที่อยู่อีเมลที่คุณใช้ติดต่อกับลูกค้าคือที่อยู่อีเมลที่ลูกค้าของคุณใช้ติดต่อคุณเกี่ยวกับสินค้าการสั่งซื้อหรือข้อสงสัยอื่นๆที่ลูกค้ามีเกี่ยวกับร้านค้าของคุณนอกจากนี้อีเมลนี้จะแสดงให้ลูกค้าเห็นเมื่อพวกเขาได้รับอีเมลแจ้งเตือนการสั่งซื้อจากร้านค้าของคุณ
ขั้นตอน:
- จากส่วนShopify adminให้ไปที่การตั้งค่า
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- เลื่อนไปยังส่วนการตั้งค่าร้านค้า
- ในแอปShopifyให้ไปที่ร้านค้า>การตั้งค่า
- เลื่อนไปยังส่วนการตั้งค่าร้านค้า
คลิกที่รายละเอียดร้านค้า
ในส่วนข้อมูลติดต่อให้คลิกที่”แก้ไข”
ป้อนที่อยู่ของคุณในช่องอีเมลผู้ส่ง
คลิกบันทึก
เปลี่ยนโปรไฟล์เจ้าของร้านค้า
เจ้าของร้านมีโปรไฟล์คล้ายกับพนักงานอีเมลและรหัสผ่านที่เจ้าของร้านค้าใช้เพื่อเข้าสู่ระบบShopifyนั้นเชื่อมโยงกับโปรไฟล์ของพวกเขา
ขั้นตอน:
เข้าสู่ระบบร้านค้าของคุณในฐานะเจ้าของร้าน
จากShopify adminของคุณคลิกชื่อผู้ใช้และรูปภาพบัญชีใช้ของคุณ
คลิกจัดการบัญชีผู้ใช้
อัปเดตข้อมูลบัญชีผู้ใช้ของเจ้าของร้านค้า
คลิกบันทึก